หลิวหว่านชาง มวยไท่จี๋ตระกูลอู๋
- 04/08/2017
- Posted by: Liang
- Category: ไท่จี๋เฉวียน (มวยไท่เก๊ก)
หลิวหว่านชาง 刘晚苍 (1904-1990) ครูมวยเลื่องชื่อของมวยไท่จี๋ตระกูลอู๋ คนเผิงไหลมลฑลซานตง ร่ำเรียนวิชาจากหลิวกวงโต้ว ร่ำเรียนอย่างจริงจังหลายปี โดดเด่นด้านการผลักมือของมวยไท่จี๋ บิดามารดาจากไปตั้งแต่ยังเด็ก ได้ปู่เลี้ยงดูเติบใหญ่ เรียนมวยอยู่ในบ้านเกิดตั้งแต่เล็ก ถึงปี 1920 ปู่เสียชีวิต ความเป็นอยู่ยากลำบาก จึงติดตามน้องชายของปู่คือหลิวถงหลีว์เดินทางไปยังปักกิ่งเพื่อหาเลี้ยงชีพ เป็นเด็กฝึกงานอยู่ในยุ้งฉางในถนนตงซีซอย 7 หลังจากประลองก็กราบครูมวยไท่จี๋ตระกูลอู๋หลิวกวงโต้วเป็นอาจารย์ การใช้ทวนใหญ่ของท่านนั้นเป็นหนึ่งไม่มีสอง ช่วงปี 30 ในศตวรรษที่ 20 ยังได้ติดตามอาจารย์เดินทางยังส่านซี ได้รับยกย่องว่าเป็นมือทวนอันดับหนึ่งแห่งส่านซี ฉายา “ทวนใหญ่หลิว” ชีวิตส่วนใหญ่ทำการค้าอยู่ที่ปักกิ่ง สิบกว่าปีศึกษาและสอนเพื่อเผยแพร่มวยไท่จี๋ งานเขียนมี [มวยไท่จี๋และการผลักมือของมวยไท่จี๋] เคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมศึกษามวยไท่จี๋ตระกูลอู๋แห่งปักกิ่ง เคยเป็นตัวแทนมวยไท่จี๋ประเทศจีนในการประลองแลกเปลี่ยนวิชากับญี่ปุ่น ศิษย์ถ่ายทอดมี เจ้าซิงคุน วังจวี่ซิง หม่าฉางซวิน เจ้าเต๋อเฟิ่ง หลิวกวงติ่ง หลิวเผย์อีหลิวเผย์จวิ้น หลิวเผย์เหลียง จางหนานผิง ต่างๆ
อ.หลิวหว่านชางเมื่อครั้งเป็นตัวแทนทีมอู่ซู่จีนรับมือยอดฝีมือชาวญี่ปุ่นที่มาแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์ที่จีน
เฉินเย่าถิง เคยเขียนบทความเกี่ยวกับ อ.หลิวหว่านชางไว้ มีตอนหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับทักษะการผลักมือของ อ.หลิว ดังนี้
ฤดูร้อนปี 1967 การปฏิวัติวัฒนธรรมเพิ่งดำเนินไปหนึ่งปี ในสวนสาธารณะจงซานในเมือง วิหารวัฒนธรรมเหลาต้งเหรินหมิน ถงจื่อเหอ (ชื่อสถานที่มั๊ง) ต่างๆ ที่เป็นที่ฝึกมวย ต่างก็ได้รับผลกระทบ อ.อู๋ปินจือที่สวนมวยร่วมกับ อ.ชุยอี้ซื่อ (ศิษย์รุ่นกลางของ อ.หยางเฉิงฝู่) ก็ยังย้ายออกมาถึงสวนสาธารณะตี้ถานที่อยู่นอกเมือง อ.อู๋กล่าวกับฉันอย่างเป็นกันเองว่า “อยากหาลุงสาม (ซานเหย่ เป็นชื่อที่คนเรียก อ.หลิวหว่านชาง) เดี๋ยวฉันพาไปแนะนำ” เขาพาฉันไปถึงมุมด้านตะวันตกเฉียงใต้ของตี้ถานซึ่งอยู่เข้าไปในกลางพุ่มไม้ แล้วบอกกับ อ.หลิว ว่า “ฉันพาลูกศิษย์คนนึงมาหาแน่ะ เสี่ยวเฉิน (เฉินน้อย) เป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยเคมีปักกิ่ง เคยตามหนิวชุนหมิง (ศิษย์รุ่นใหญ่ในสามศิษย์เอกรุ่นเซวียนของ อ.หยางเฉิงฝู่) ชุยอี้ซื่อ (ศิษย์หยางเฉิงฝู่) เรียนมวยตระกูลหยาง ชอบผลักมือ ท่านสอนเค้าเถอะ!” อ.หลิวก็พูดอย่างกันเองว่า “ได้!” พูดคุยไม่กี่คำก็พาฉันไปสัมผัสมือกัน (หมายถึงผลักมือ) มือขวาฉันพอยืดออก มืออยู่ที่หน้าอกเขาก็เหมือนกับถูกติดไว้แล้ว ถูก “หนา” (ยึดกุม) อยู่แล้ว ยังไม่ทันรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ถูกฟาออกไปไกลเป็นจ้าง (3 เมตรครึ่ง) แล้ว หันตัวกลับมา ก็ให้ฉันไปผลักอีก ฉันพอยืดมือซ้าย ข้อมือของฉันก็เหมือนถูกเชือกดึงแขวนขึ้นไปแล้ว ถูกดึงขึ้นไปนิดหน่อย ก็ล้มลงไปทางซ้ายตามมือของเขา เขาตามมือดึงไว้ พลิกมือก็ทำให้ฉันถูกเหวี่ยงไปทางซ้ายของเขาแล้ว ฉันต้องกระโดดขึ้นลงต่อกันหลายก้าว จนถูกลูกศิษย์ของเขามารับไว้ นี่ช่าง “ร้อยบอกไม่สู้เห็นด้วยตา” จริงๆ ในใจเกิดความเคารพเลื่อมใสยิ่ง จากนั้นก็ติดตาม อ.หลิวอย่างต่อเนื่องสิบกว่าปี จนกระทั่งอาจารย์ลาโลกไป
อาจารย์หลิวหว่านชางเวลาผลักมือ ชี่ซื่อยิ่งใหญ่ เคลื่อนไหวเปิดกว้าง ช่างมีจิตวิญญาณของนกอินทรีจับกระต่ายอย่างแท้จริง ทั้งร่างของเขาสามารถหนาคน ปล่อย (ฟ่าง) คน เวลาปล่อยช่างเหมือนคัมภีร์มวยที่ว่า “ฟาคนเหมือนปล่อยลูกธนู” ฟาหนึ่งทีก็ไกลไปเป็นจ้าง (สามเมตรครึ่ง) มีคนบอกว่า “ยอดฝีมือหนาที่ปลาย พวกฝีมือพื้นเพหนาที่ราก” เวลาสัมผัสมือกับอาจารย์หลิวนั้น แค่มือไปกระทบถูกเขา ไม่ว่าจะเป็นมือรับ แขนรับ ตัวรับ หรือหน้าอกรับ คุณก็ล้วนแต่รู้สึกได้ผ่านปลายมือ ทั้งร่างก็รู้สึกว่าถูกหนาไว้แล้ว คนนอกดูไม่ออก แค่คนยื่นมือไปนั้นเข้าใจได้เอง ต้องบอกว่า “เทพ! (เสิน)” โดยแท้ ครั้งหนึ่งฉัน (คนเขียนบทความ) ยื่นมือไปคว้าจับข้อมือเขาไว้ ยังไม่ทันจับแน่น ข้อมือของเขาก็เกี่ยวเข้าไปหาหน้าอก ทันใดก็รู้สึกว่าข้อมือของเขาปล่อยแรงระเบิด (เป้าฟาลี่) ที่ไม่อาจจะต้านทานได้ชนิดหนึ่งออกมา ในใจก็สะดุ้งตกใจ จากนั้นก็ถูกฟาออกไปสิบกว่าก้าว นี่ช่าง “เต็มเปี่ยม หนักแน่น ดุดัน!” ฉันถามว่า “นี่คือจิ้งอะไร?” อาจารย์หลิวตอบว่า “ตันเปียน (แส้เดี่ยว)” ภายหลังจึงค่อยๆ เพิ่มเติมหนึ่งประโยคว่า นี่คือ “เด็ดดอกปลิดใบ” ถึงวันนี้ฉันยังจดจำกระจ่างชัด และนี่ยังกลายมาเป็นเทคนิควิธีที่ฉันชื่นชอบอีกด้วย